เช้าขึ้นมา ทานอาหารเช้าเสร็จ เราก็ขับรถออกมาจากหมู่บ้าน พอมาถึงเส้นทางแม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน เราก็เลี้ยวซ้ายขึ้นไปทางแม่ฮ่องสอน ขับรถเลี้ยวลด คดเคี้ยวไปเรื่อยๆผ่านน้ำพุร้อน เล็กๆที่พัฒนาโดย อบต.ในพื้นที่ เราก็แวะเข้าไปชมดู ได้พบกับคณะทัวร์รถมอร์เตอร์ไซค์กลุ่มหนึ่งประมาณ ๓๐ คนตั้งแคมป์พักอยู่ที่นั่น พวกเขากำลังเก็บของเตรียมเดินทางต่อ จากการเข้าไปสอบถามได้ความว่าเขาเดินทางกันมาจากจังหวัดตาก เป็นเด็กหนุ่มๆในวัยเรียน แล้วตั้งเป็นชมรม สำหรับออกทัวร์เป็นคณะ ในช่วงหยุดยาว
รู้สึกว่าคนริเริ่มจะอาวุโสกว่าคนอื่นๆ เพราะอายุอาจจะราวๆเกือบ ๔๐ ปีได้ ช่วงที่พวกเราเดินทางออกมาจากแหล่งน้ำพุร้อน รถของเราก็แซงรถของคณะมอเตอร์ไซค์กลุ่มนี้อีกครั้ง เขาขับเป็นกลุ่มๆ แต่ขับไม่เร็ว ไม่เหมือนกลุ่มรถซิ่งในกทม. หรอกครับพวกเราตั้งใจว่าไหนๆก็มาแล้ว ก็จะแวะดูทุ่งดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอ เสียหน่อย แม้จะรู้ว่า คงจะไม่ได้เห็นบัวตองบานแล้วหละ เพราะทุ่งบัวตองจะบานสะพรั่งเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น แต่ตอนนี้มันหลังปีใหม่มาได้ สองวันแล้ว บัวตองคงไม่มามัวรอเรา อยู่หรอก
เมื่อไปถึง….ก็เป็นจริงตามที่คาดการณ์ไว้ ทุ่งบัวตองส่วนใหญ่แห้งเป็นสีน้ำตาลไหม้ไปหมดแล้วอาจจะมีอยู่บ้างที่เป็นจุดเหลืองประปราย แต่ก็มีอีกที่หนึ่ง ที่ไม่ได้เป็นทุ่งแต่เป็นแปลงบัวตอง ที่พ่อค้าแม่ค้าขายผักผลไม้ที่ นั่น เขา ปลูกไว้ โดยรดน้ำทุกวัน บัวตองแปลงนั้นก็จะขึ้นสวยงามออกดอกเหลืองอร่าม เอาไว้ให้นักเดินทางท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปและซื้อของจากเขา อย่างน้อยก็ไม่ให้เสียเที่ยวจนเกินไป
ด้วยอารมณ์ และจินตนาการ ท่ามกลางม่านเมฆหมอก และทะเลภูเขา สุดสายตา ก็บรรยายมาเป็นภาษา สำหรับคนชอบเขียนกลอนไม่ได้…ก็มันเห็น..
.
ม่านภูเขา ละลานตา วันผาหม่น ดอกบัวตอง ยืนต้น แห้งหม่นไหม้
ทะเลฟ้า ล้อเมฆฝัน เหมือนควันไฟ เยียบหัวใจ ถามหา ผู้มาเยือน
หมู่ทิวสน เรียงต้น เหมือนคนเหงา ในใจเรา คงคล้าย แม้ไม่เหมือน
ดังจะรอ บัวตอง คืนครองเรือน วนรอบเดือน พฤศจิกา กลับมาเนาว์
เพื่อระบาย สีเหลือง ให้เรืองรุ่ง แต้มเป็นทุ่ง ตะวันหวัง ตั้งต้นหนาว
ระยิบยับ กับน้ำค้าง พรูพร่างพราว ขับแสงดาว พรายฟ้า ในราตรี
แต่วันนี้ วันที่ ทุ่งยังร้าง อาจมีบ้าง บางดอกไม้ ได้แย้มคลี่
ความสวยงาม บางครั้งหนอ ต้องพอดี และก็มี อยู่บ้าง เพียงบางวัน
จึงจะหวัง วันที่ ฟ้าสีฟ้า เมื่อบัวตอง พร่างตา ระบายฝัน
ฤดูกาล ผ่านไป ตามวัยวัน มาเติมฝัน พร่องใจ ให้คนจร
.
บนดอยแม่อูคอ มีจุดชมวิว อยู่จุดหนึ่ง เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในแถบนั้น ยอดดอยขึ้นปกคลุมเต็มไปด้วยสนภูเขา ยามมองลงไปเบื้องล่าง จะเห็นทะเลภูเขาเรียงรายสลับกันไปจนสุดสายตา ที่นี่ก็เช่นเดียวกัน อบต.เขาก็พัฒนาแหล่งชมวิว เพื่อให้ความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว เป็นอย่างดีมาก
การเดินทางมาแม่ฮ่องสอนคราวนี้ ดูถนนหนทางสะดวก สะบาย มากทีเดียว ผม.. อดนึกย้อน ไปเปรียบเทียบกับ หลายสิบปีก่อนไม่ได้ เมื่อครั้งสมัย ที่ยังมาตะลอนๆเดินข้ามเทือกเขาภูดอย ลูกแล้วลูกเล่า อย่างลำบากยากเย็น เพื่อมาสอนหนังสือเด็กน้อยๆแถวนี้ ผมสังเกตุว่าในขณะที่ถนนหนทางสะดวกสบายมากขึ้นในปัจจุบัน ภูเขาหัวโล้นก็มากขึ้นตามไปด้วย
ความสะดวกที่มีมาเหล่านี้ เพื่อชาวเขา หรือเพื่อชาวเมือง หรือเพื่อประโยชน์ร่วมกัน บางทีผมเองก็ชักไม่แน่ ใจเหมือนกัน…ครับ
ดอยแม่อูคอ ขุนยวม แม่ฮ่องสอน, ๒ มกราคม
No comments:
Post a Comment